Skip to content
ISPIOISPIO
ISPIO
Internet Data Center
  • Services
    • Colocation
    • Dedicated Server
    • Business Email
    • Web Hosting
    • IPv6
    • 10 Gbe Fiber Optic
  • Solution
    • Big Data
    • Content Delivery
    • Disaster Recovery
    • IP-PBX
    • IPTV Streaming
    • OpenStack
  • Blog
  • About
    • Company
    • Data Canter
  • Contact
 
  • ไทย
  • Services
    • Colocation
    • Dedicated Server
    • Business Email
    • Web Hosting
    • IPv6
    • 10 Gbe Fiber Optic
  • Solution
    • Big Data
    • Content Delivery
    • Disaster Recovery
    • IP-PBX
    • IPTV Streaming
    • OpenStack
  • Blog
  • About
    • Company
    • Data Canter
  • Contact

Cloud แบบไหนถึงจะเหมาะกับเราสุด? วันนี้มีคำตอบ

cloud-21-6-16-1200x565

ถ้าท่านสนใจเกี่ยวกับ Cloud หลายท่านจะรู้ดีว่า Cloud นั้นสามารถแบ่งได้ตามรูปแบบการนำไปใช้ โดยจะมีแบบ Private กับ Public Cloud ซึ่งมีความแตกต่างกันแบบครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว และ Cloud ทั้งสองแบบนี้สามารถนำมาใช้งานร่วมกันได้อีกด้วย ซึ่งเรียกว่า Hybrid Cloud แต่ทั้ง 3 รูปแบบ ดังนั้นวันนี้เราจะนำรายละเอียดเกี่ยวกับ Cloud ทั้ง 3 มาพูดถึงกันว่าแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกันอย่างไรบ้าง

จุดเด่นของแต่ละ Cloud

Public Cloud

  • ราคาที่ไม่สูงมากและมีผู้ให้บริการหลายราย เป็นการใช้งานร่วมกับผู้ใช้บริการอื่นๆ
  • บางผู้ให้บริการ มีบริการ Software as a Service (SaaS) ซึ่งเป็นการให้บริการ Software ต่างๆ บนระบบ Cloud เพื่อให้คุณสามารถที่จะนำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม
  • สามารถ Scale out ได้ทันที เมื่อเกิด Workload Peak time ทำให้ระบบทำงานต่อเนื่องได้

แต่ถึงจะมีข้อดีเรื่องราคาและการปรับแต่งระบบที่จำกัด แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึง คือ ระบบ Security ที่จะนำมาใช้เพื่อป้องกันระบบด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนนี้หากความต้องการใช้งานของคุณ เต็มไปด้วยข้อมูลที่สำคัญของบริษัท หรือองค์กร Public Cloud ก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้ดังกล่าว

Private Cloud

  • ข้อมูลต่างๆ ขององค์กร มีความปลอดภัยสูง และสามารถปรับแต่งระบบ และกระบวนการทำงานได้อย่างเต็มที่
  • เหมาะกับบริษัท หรือองค์กร ที่มีข้อมูลสำคัญมากๆ เช่น ธนาคารและอื่น ๆ และมีทีมงานพร้อมเพื่อดูแลระบบต่างๆ ของ Private Cloud
  • ลักษณะการทำงานแบบ Single User คือ บริษัท หรือ องค์กร เป็นผู้ใช้งานและดูแลเท่านั้น
  • เหมาะกับบริษัทที่มี Data Center หรือ มีแผนพัฒนาระบบ Data Center เพื่อตอบสนองต่อการทำธุรกิจของบริษัท หรือองค์กร

นับว่าความปลอดภัยของระบบเป็นจุดแข็งที่ Private Cloud ที่มีข้อมูลสำคัญเป็นจำนวนมาก แต่ค่าบำรุงรักษาก็สูงตามเช่นกัน และยังไม่สามารถ Scale out แบบกะทันหัน เมื่อเกิด Workload Peak time ได้เหมือนกับ Public Cloud แต่ถ้านำมาใช้งานภายในองค์กรเป็นนับว่าเพียงพอทีเดียว

Hybrid Cloud

  • เป็นการเอาข้อดีของ Private Cloud และ Public Cloud มาใช้ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น นำ Private Cloud มาใช้สำหรับระบบต่างๆ ที่ต้องทำงานกับข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กร และนำ Public Cloud มาใช้เพื่อการ Scale out เมื่อต้องประมวลผลในช่วงที่เกิด Workload Peak time
  • ลดต้นทุนในการพัฒนา Infrastructure ของ Private Cloud ให้รองรับการ Workload Peak time ที่อาจจะเกิดเพียงแต่ 2-3% ในแต่ละเดือน หรือปี

สิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นอย่างแรกเมื่อใช้งาน Hybrid Cloud คือเรื่องการตั้งค่าเชื่อมต่อระหว่าง Private กับ Public Cloud ที่มีความยุ่งยาก เพราะรายละเอียดของ Cloud ทั้งสองแบบนั้นต่างกันมาก จึงมีความจำเป็นต้องมีผู้ชำนาญการเป็นผู้ปรับแต่งระบบต่างๆ ให้ทำงานร่วมกัน และทดสอบระบบซ้ำและซ้ำอีกจนมีความเสถียร

Tags: Cloud Computingcloud hostingcloud servercloud serviceData CenterHybrid Cloudinternet cloudPrivate CloudPublic Cloud

Post navigation

PreviousPrevious post:Colocation คืออะไร ทำไมคนนิยมกัน?NextNext post:เพิ่มประสิทธิภาพของ Docker ให้ก้าวกระโดดแค่ 5 ขั้นตอน

Related Posts

Web Hosting ตัวช่วยจัดการเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ
พฤษภาคม 17, 2019
Internet Data Center สิ่งจำเป็นที่ธุรกิจ และองค์กรต้องให้ความสำคัญ
พฤษภาคม 8, 2019
เลือกรูปแบบ Web Hosting ให้เหมาะสมกับคุณ
เมษายน 25, 2019
Dedicated Server ต้นทุนต่ำคุ้มค่าต่อการลงทุน
เมษายน 10, 2019
Internet Data Center สิ่งจำเป็นที่ธุรกิจ และองค์กรต้องให้ความสำคัญ
เมษายน 4, 2019
ทำไมต้องใช้บริการ Colocation
มีนาคม 29, 2019
รวม 4 Tool ชั้นดีที่ Docker User ห้ามพลาด
พฤศจิกายน 26, 2018
5 ความเชื่อผิดๆ ทำแผนระบบ Cloud ของคุณเสียหาย!
พฤษภาคม 30, 2017
OpenStack คืออะไร? เกี่ยวข้องอย่างไรกับ Cloud Computing กันแน่?
พฤษภาคม 30, 2017
NIPA Technology Co. Ltd.
72 CAT Telecom Tower. 4th Floor.
Room 401 - 402. Charoenkrung Road. Bangrak. Bangrak. Bangkok. Thailand 10500.
DATA CENTER SUPPORT

24/7 Technical Call Center
Office : +66 2 639 7744 ext. 111
Mobile : +66 8 6328 3030
Email : noc@ispio.com

SALES SUPPORT

Office : +66 2 639 7744 ext 413
Mobile (TH) : +66 8 7687 4456
Mobile (EN) : +66 8 1841 4949
Mobile (CN) : +66 8 1841 4949
Email : sales@ispio.com

โทรหาเราที่เบอร์นี้
02-107-8251 ต่อ 444
แชทผ่าน LINE
สแกน QR Code เพื่อแชทกับเรา
แบบฟอร์ม
กรุณากรอกข้อมูลเพื่อให้เราติดต่อกลับ

ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์ *
อีเมล *
สอบถามเกี่ยวกับ