
กลุ่มองค์กรขนาดเล็ก ไม่ว่าจะ SME หรือ Startups กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าธุรกิจประเภทนี้มีการเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังอยู่ในขั้นตอนการเริ่มต้น มีต้นทุนและข้อมูลขององค์กรไม่มากนัก เหมาะเหม็งพอดีกับการเริ่มใช้งาน Cloud Computing
กลุ่ม Startups และ SME มักเลือกจะเริ่มต้นใช้งาน Cloud Computing ทันที เพราะประสิทธิภาพของ Cloud นั้นมาพร้อมฟีเจอร์เด่นๆ ส่งเสริมธุรกิจในหลายด้าน ทั้ง e-Commerce และระบบ Website เพื่อรองรับลูกค้า ซึ่งในส่วนนี้ Cloud Computing ตอบโจทย์ธุรกิจยุคนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยการทำให้สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะใช้สมาร์ทโฟนหรือโน้ตบุ๊คก็ตาม
นอกจากนี้ผู้ให้บริการ Cloud Computing เองก็ต้องการเพิ่มปริมาณฐานลูกค้าและ User ของตน ผู้ให้บริการบางรายจึงจัดแคมเปญ เปิดให้ผู้ใช้บริการเชิญชวน User หน้าใหม่ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นพวก SME หรือ Startups เข้ามาใช้บริการผ่านการแนะนำ อาจมีโปรโมชั่นลดราคา จากราคาค่าบริการที่น้อยอยู่แล้วก็ยิ่งดึงดูดลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดเล็กประเภทนี้เข้าไปใหญ่
ทั้งนี้ 7 สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ Cloud Computing เหมาะสำหรับกลุ่ม SME และ Startups ได้แก่
1. ค่าบริการ Cloud มีราคาถูก เหมาะกับ Startups – ค่าบริการจะถูกนับตามปริมาณ Data transfer ที่เกิดขึ้นตามจริง ผู้ใช้บริการไม่ต้องลงทุนสร้างระบบ Infrastructure ขึ้นมาด้วยตัวเอง ซึ่งการเช่าใช้บริการนี้ทำให้สามารถใช้งานระบบที่ประสิทธิภาพสูงได้ด้วยเงินจำนวนน้อย เหมาะกับ Startups หรือกลุ่มองค์กรขนาดเล็กที่มีทุนไม่มาก จุดเด่นข้อนี้ไม่เพียงแค่ดีต่อธุรกิจขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งเท่านั้น องค์กรต่างๆ เองก็เริ่มลดงบประมาณการลงทุนใน Data center ภายในตัวองค์กรลง และหันไปใช้งาน Cloud Computing กันมากขึ้น เพื่อเป็นการประหยัดค่าบำรุงรักษา
2.Scalability และระบบ Virtualized – ความเร็วของการ Provision และการ Scale ระบบได้ตามต้องการนับว่าเป็นจุดแข็งของ Cloud Computing ที่น่าดึงดูดใจ ระบบสามารถ Provision การทำงานของ Server สองตัวให้พร้อมใช้งานได้ในเวลาไม่กี่นาที และสามารถรองรับ Workload ปริมาณมากให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าเว็บหรือระบบหลังบ้าน
3.เพิ่มช่องทางใหม่ – รูปแบบการทำงานของ Cloud Computing จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจของผู้ใช้บริการ เปลี่ยนโครสร้างธุรกิจแบบเดิมๆ จากที่เน้นสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว มาเป็นการโฟกัสด้านการบริการเป็นหลัก
4.ประสานงานกันผ่านทาง Cloud ได้ดีขึ้น – Cloud Computing ทำให้ User สามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาจากอุปกรณ์แบบไหนก็ได้ ทำให้การทำงานสะดวกและเร็วขึ้น จากการสำรวจของ Verizon Enterprise Solution การใช้ Cloud computing ทำให้ประสิทธิภาพการประสานงานระหว่างทีมเพิ่มขึ้นถึง 72% นอกจากนี้สุดยอดของความสะดวกสบาย คือ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่แค่บริหารจัดการการทำงานเท่านั้น ส่วนระบบ Server และการดูแลรักษาทั้งหมดนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการ
5.มีความเสถียรและทำงานได้ต่อเนื่อง – ด้วยความที่ระบบของ Cloud computing ถูก Host เอาไว้ที่ Server ของผู้ให้บริการ เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นก็จะสามารถโยกย้ายเปลี่ยน Server ได้อัตโนมัติ ทำให้ไม่ค่อยเกิดปัญหา Downtime และการมีระบบ Disaster recovery กู้คืนข้อมูล ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ หมดปัญหาข้อมูลสูญหาย
6.คุณภาพการทำงานสูงขึ้นด้วยระบบ Cloud – การย้ายมาใช้งาน Cloud computing หมายถึงคุณภาพระบบ IT Provision และการจัดการที่เหนือชั้นยิ่งกว่าเดิม โดยไม่ต้องพึ่งพาฝ่าย IT มากเหมือนในอดีต แทนที่จะต้องเสียทรัพย์เสียเวลาลงทุนกับส่วน Infrastructure ผู้ใช้บริการ Cloud computing สามารถเดินหน้าทำการแข่งขันในตลาดธุรกิจได้อย่างสบายใจด้วยทรัพยากรคุณภาพเยี่ยมที่ผู้ให้บริการจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วบน Cloud ซึ่งระบบการ Provision ที่เป็นอัตโนมัตินี้ย่อมส่งผลให้คุณภาพและความสามารถในการจัดการงานสูงขึ้น
7.ธุรกิจเปิดกว้างด้วยระบบ Analytics – นอกจาก Cloud computing จะปลดเปลื้องภาระที่ผู้ประกอบการต้องลงทุนกับการดูแลระบบ IT แล้ว ยังมาพร้อมกับระบบ Analytics ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูล ยิ่งไปกว่านั้น Cloud computing ได้ทำให้ธุรกิจสะดวกสบายไปอีกระดับด้วยการสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ทุกเวลาขอแค่มีอินเตอร์เน็ต และเลี่ยงความเสี่ยงถูกขโมยเมื่อเก็บข้อมูลสำคัญไว้ในตัวอุปกรณ์ที่เข้าถึงง่ายอย่าง คอมพิวเตอร์หรือมือถือ อีกด้วย