Colocation คืออะไร ทำไมคนนิยมกัน?

บริการ Colocation คือบริการรับฝาก Server เอาไว้ใน Internet Data Center ซึ่งปัจจุบันอาจจะเป็นการเช่า Server และวางที่ Data Center หรือบริการรับฝากเครื่อง Server ซึ่งผู้ให้บริการได้จัดเตรียมระบบต่างๆ ไว้ เช่น Network, Air Flow Control, UPS และมีทีมงานผู้ชำนาญการคอยดูแลระบบต่างๆ เพื่อ Server ของเรา

โดย Internet Data Center ของประเทศไทย นั้นมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน ดังนั้นจึงขอยกตัวอย่าง อาคาร กสท โทรคมนาคม เขตบางรัก ซึ่งเป็นอาคาร Telecommunication โดยเฉพาะ วัตถุประสงค์ในการก่อตั้งจะเน้นด้านการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นหลัก

1. ความเร็วในการเชื่อมต่อเพื่อเข้าถึงข้อมูลจากผู้ใช้บริการ : เพราะ Internet Data Center แต่ละแห่ง จะมี Bandwidth ปริมาณมากเพื่อให้บริการ Network Connection ทำให้ความเร็วและความเสถียรในการเชื่อมต่อสูงกว่าอินเตอร์เน็ตบ้านทั่วไป

2. เรียกใช้ข้อมูลได้ตลอดเวลา : เนื่องจาก Server ที่ฝากไว้ใน Colocation นั้นทำงานตลอดเวลา จึงทำให้สามารถตอบสนองต่อการเรียกใช้ข้อมูลไว้อย่างรวดเร็ว และสามารถเรียกใช้ข้อมูลได้จากที่ไหนก็ได้ เพียงเชื่อมต่อผ่าน Internet

3. ประหยัดค่าไฟฟ้าและค่าอินเทอร์เน็ต : ผู้ให้บริการจะเป็นผู้ดูแลระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Precision Air, UPS, Internet Network ล้วนแต่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งสิ้น ดังนั้นการใช้บริการ Colocation ช่วยให้บริษัท หรือองค์กร สามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับระบบ Data Center ภายในองค์กร และค่าอินเทอร์เน็ตที่ต้องเตรียมไว้ในปริมาณมาก สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าของบริษัท

4. มีทีมผู้ชำนาญการคอยดูแล : เพราะระบบ Colocation ต้องอาศัยผู้ชำนาญการในการดูแลควบคุมระบบต่างๆ ดังนั้นผู้ให้บริการ Colocation นั้นจะมีทีมผู้ชำนาญการคอยดูแล และให้บริการอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบต่างๆ ของ Data Center สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น

5. ปรับใช้งานได้หลากหลาย : บริการ Colocation นั่นเหมาะสำหรับ ผู้ที่มีความต้องการที่จะใช้ Internet ปริมาณมากๆ และพิ้นที่ที่เหมาะสมสำหรับวางระบบ Server ต่างๆ เพื่อการันตีการทำงานอย่างต่อเนื่องของระบบ Server อีกทั้งยังสามารถนำระบบของ Colocation ไปประยุกต์ เพื่อการให้บริการที่เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้า เช่น BitTorrent, Colocation หรือ Game Hosting เป็นต้น

6. ปรับ Package ได้ตามต้องการ : เป็นบริการที่เราสามารถเลือก Package ได้ตามความต้องการ หรือแม้กระทั้งแจ้งสิ่งที่เราต้องการกับผู้ให้บริการ ว่าเราต้องการใช้บริการอะไรบ้าง มากน้อยเท่าไหร่ เพื่อการใช้บริการที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด

เพราะระบบต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา ดังนั้นผู้ให้บริการที่มีระบบไฟฟ้าสำรองเลี้ยงระบบเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อให้บริการ Colocation พร้อมให้บริการตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้า หรือแม้แต่ระบบไฟฟ้าสำรองที่ติดตั้งเอาไว้ในอาคาร หรือภายใน Internet Data Center เอง

ต่อมา คือ เรื่องของระดับมาตรฐานของระบบรักษาความปลอดภัย เช่น กล้องวงจรปิด การควบคุมการเข้าออกห้อง Data Center รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

นอกจากระบบโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure ด้าน IT ที่ Colocation ควรให้ความสำคัญ ผู้ใช้งานยังควรคำนึงถึงมาตรฐานการให้บริการและการรับรองที่มีความน่าเชื่อถืออีกด้วย โดย ISPIO Cloud Data Center ได้เปิดให้บริการ Colocation ผ่าน NIPA.Cloud ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 ระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล และ ISO/IEC 29110 มาตรฐานวิศวกรรมซอฟต์แวร์สำหรับองค์กรขนาดกลางและเล็ก โดยยังมีมาตรฐานการให้บริการ (Service Level Agreement : SLA) ซึ่งเป็นข้อตกลงในการให้บริการว่าบริษัทฯ จะรักษาระดับคุณภาพการให้บริการแก่ลูกค้าตามที่ตกลงไว้กับลูกค้า ในระดับ 99.9%

รวมถึงบริการ Colocation จาก NIPA.Cloud ยังมีบริการพื้นที่สำหรับวางเครื่อง Server ที่มีทั้ง Rack Share และ Private Rack ภายใน Internet Data Center เพื่อจะเชื่อมต่อ Server เข้าสู่เครือข่าย Internet ความเร็วสูงระดับ Gigabit เหมาะสำหรับท่านที่มีความต้องการพัฒนาระบบ Web Server, Mail Server, Game Server และ Solutions ต่างๆ ที่ต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูล ซึ่งท่านสามารถเข้าบริหารจัดการ Server และ Rack Server ได้ด้วยตนเองเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ Colocation ได้อย่างเต็มที่ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี พร้อมระบบ Full Redundancy และ High Security