Tech Knowledge

ไขข้อข้องใจ! มาตรฐาน Wifi เรื่องใกล้ตัวควรรู้

Published : February 20, 2018Time : 2 min read

สมัยนี้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาพร้อมกับการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตกันทั้งนั้น องค์กรต่างๆ ก็เริ่มหันมาใช้งานระบบ Cloud Computing กันมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มองหาผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงราคาประหยัด แต่ต่อให้อินเตอร์เน็ตที่ทุกท่านสมัครใช้บริการนั้นจะเร็วขนาดไหน ถ้าอุปกรณ์อย่าง Wireless Router ไม่สามารถตอบสนองการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่อยู่ดี

ก่อนที่จะไปดูว่าควรหาซื้อ Wireless Router แบบไหนดี เรามาเริ่มทำความเข้าใจกันก่อนว่าระบบ Wifi ที่ทุกคนใช้งานกันอยู่นั้นถูกคิดค้นขึ้นมาโดย นาย วิก เฮย์ เมื่อปี 1991 (ราว 25 ปีที่แล้ว) เริ่มต้นจาก 802.11 Protocol มาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันนี้มี Router ที่รองรับแบบ b/g/n เป็นมาตรฐานออกมาหลายต่อหลายรุ่นในราคาที่ไม่แพง

IEEE 802.11a/b/g/n เป็นคำเรียก Wireless LAN Interface ที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพความเร็วสูงสุดที่ Wireless Router ตัวนั้นๆ สามารถส่งสัญญานออกมาได้ โดยแต่ละมาตรฐานจะมีความเร็วที่แตกต่างกันตามปีการพัฒนา ซึ่งถ้าแบ่งตามระยะเวลาพัฒนา คือ

  • 802.11B – เป็นมาตรฐานเก่าที่หยุดการผลิตไปแล้ว แต่ Router ใหม่ ๆ ก็ยังรองรับการทำงานของมาตรฐานนี้อยู่ โดยมีความเร็วแค่ 11 mbps กับระยะ 45 เมตรเท่านั้น ทำงานที่คลื่นความถี่ 2.4 GHz ซึ่งเป็นมาตรฐานพื้นฐานสำหรับเริ่มต้นใช้งานภายในบ้านเรือน

  • 802.11G – เป็นมาตรฐานที่พัฒนาต่อจากแบบ B โดยเพิ่มความเร็วจาก 11 mpbs ขึ้นมาเป็น 54 mbps ที่คลื่น 2.4 GHz เหมือนเดิม และแน่นอนว่ารองรับรูปแบบ B

  • 802.11N – เป็นรูปแบบที่รองรับทั้ง B/G และได้รับการพัฒนาให้ดีกว่าเดิมโดยการติดตั้งเสาอากาศ โดยแบบ 2 เสาอากาศ จะมีความเร็วที่ 300mbps ส่วนแบบที่มี 3 เสาอากาศ จะเพิ่มความเร็วขึ้นมาเป็น 450 mbps อย่างไรก็ตามความเร็วเฉลี่ยจะอยู่ที่ 130 mbps (หรืออาจน้อยกว่านั้นได้ตามสภาพแวดล้อม) นอกจากนี้ก็มีการเพิ่มคลื่นความถี่ 5 GHz เข้ามาให้ทำงานคู่กับ 2.4 GHz ทำให้รูปแบบ N นั้นสามารถทำงานแบบ Multiple signal (Multiple In-Multiple Out เขียนย่อว่า MIMO) มีประสิทธิภาพการทำงานนั้นเหนือกว่าแบบ G เป็นอย่างมาก

  • 802.11AC – เป็นเทคโนโลยีใหม่ของ Wireless Technology ที่ประสิทธิภาพสูงกว่ามาตรฐาน N ที่ผ่านมา มักเรียกกันว่า Gigabit Wi-Fi เพราะความเร็วในการส่งข้อมูลจะสูงขึ้นในระดับ 500 mbps – 1 Gbps เลยทีเดียว ส่วนคลื่นสัญญาณจะเป็นแบบ 5 GHz ครอบคลุมพื้นที่ได้บริเวณกว้าง แต่เทคโนโลยี AC นั้นเพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน และยังอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อยอด

ตามจริงแล้วมันมีหลายมาตรฐานทีเดียวสำหรับ Wifi Router แต่ถ้าแยกตามที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันนี้ก็จะมีเพียงกลุ่มที่เป็นมาตรฐาน 802.11b/g/n และ 802.11AC เท่านั้น ซึ่งเกณฑ์การตัดสินใจเลือกก็ไม่ยากนัก คือ

เลือกใช้ b/g/n ในกรณีที่

  • มีคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเกมคอนโซลไม่กี่เครื่อง
  • ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่บ่อย ๆ
  • บ้านหรือพื้นที่ใช้งานไม่กว้างมาก
  • มีงบประมาณสำหรับ Wifi Router ไม่สูงมาก เพราะมาตรฐาน AC จะมีราคาค่อนข้างสูง

เลือกใช้ AC ในกรณีที่

  • บ้านหรือพื้นที่ใช้งานมีบริเวณกว้างจนมาตรฐาน N ไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
  • มี User ที่ใช้งานทั้งคอมพิวเตอร์และเครื่องเกมคอนโซลเชื่อมต่ออยู่หลายเครื่องด้วยกันจนคลื่น 2.4 GHz อาจจะไม่เพียงพอ ต้องมีมาตรฐาน 5 GHz เข้ามาเสริม
  • ใช้งานอินเตอร์เน็ตมากกว่าแค่ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจรวมไปถึงการเล่นเกมจากเครื่องคอนโซล หรือมี User ถ่ายทอด Live Stream Video ไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดตลอดเวลา
AUTHOR
Author
NIPA Cloud
Writer

We—as a team of Thai people—are assured that Thai cloud is the absolute answer for driving your business in the digital era.